ทำไมถึงต้องเลือกกล้องส่องเพชรและอัญมณีของ Leica
Leica ซีรีย์ S9 เป็นกล้องจุลทรรศน์ชนิดสเตอริโอรุ่นใหม่ล่าสุดแบบให้แสงพิเศษ (Greenough) สำหรับงานตรวจสอบจิวเวลรี่ เช่น เพชร, คริสตัล, พลอย, อัญมณีอื่นๆ Leica S9 ให้ภาพสมจริงและคมชัดมากที่สุดในตลาด อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยี Fusion Optics ซึ่งเป็นสิทธิบัตรจาก Leica ช่วยเพิ่มระยะชัดลึกกว้างถึง 12 มิลลิเมตร ทำให้ค้นหารายละเอียดของเพชรหรืออัญมณีได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วโดยไม่ต้องทำการปรับโฟกัสภาพใหม่ เหมาะสำหรับการตรวจเพื่อออกใบรับรองโดยผู้ชำนาญการด้านเพชรและอัญมณี เช่น GIA Certificate หรือ AIGS Master Gemstone Report ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านจิวเวลรี่ที่ต้องการตรวจคุณสมบัติอัญมณีควรมีไว้เพื่อตรวจทวนสอบ
ทางบริษัทขอแนะนำกล้องส่องเพชรและอัญมณี โดยกล้อง Leica ซีรีย์ S9 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดเวลาในการทำงานถึง 20% โดยอาศัยเทคนิค Fusion Optics ช่วยให้รายละเอียดของภาพสูงขึ้นกว่าเดิม และด้วยเลนส์เกรด Apochromatic ทำให้ได้ภาพที่มีสีไม่ผิดเพี้ยน สบายตาเหมือนมองด้วยตาเปล่า มี Working Distance หรือ ระยะการทำงานที่กว้างขึ้น ทำให้สะดวกต่อการทำงานใต้กล้อง ซึ่งแตกต่างจากกล้องจุลทรรศน์ปกติยี่ห้ออื่น
ในการตรวจสอบเพชรหรืออัญมณีนอกจากตัวกล้องกล้องที่มีประสิทธิภาพแล้วเราจำเป็นต้องมีฐานสำหรับใส่เพชรและไฟส่องเฉพาะเพราะตัวอัญมณีจะต้องใช้ไฟส่องแบบพิเศษจึงจะเห็นสี ความใส สิ่งแปลกปลอมและรอยที่ชัดเจนและด้วยฐานแบบพิเศษทำให้การจัดวางตำแหน่งอัญมณีมีความแม่นยำหรือทำให้การทำงานใต้กล้องจุลทรรศน์ของคุณเป็นเรื่องง่ายแหล่งกำเนิดแสงชนิดต่างๆ เช่น Halogen, LED และ Fluorescenceจะช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งที่คุณต้องการเห็นเป็นเนื้อเดียวกันและสว่างขึ้น
สถาบัน GIA (Gemological Institute of America) ซึ่งเป็นสถาบันด้านอัญมณีศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและได้รับการยอมรับในวงกว้าง ได้กำหนดเกณฑ์เพื่อแบ่งเกรดหรือคุณภาพของเพชร โดยใช้หลักการ 4C’s ได้แก่ ความสะอาด (Diamond Clarity), สี (Color), การเจียระไน (Cut) และ กะรัต (Carat) เพื่อออกใบรับรองคุณภาพเพชร ที่รู้จักโดยทั่วไปในชื่อของ GIA Certificate
- ความสะอาด (Diamond Clarity) เป็นจุดสำคัญที่สุด ส่งผลต่อราคาเพชรเป็นอย่างมาก เป็นปัจจัยที่บ่งบอกว่าเพชรนั้นหายาก ระดับความสะอาดของเพชรที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ คือ IF VVS VS SI การใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ กำลังขยายสูง จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจคุณภาพด้านนี้ โดยกำลังขยายของ Leica S9 series 55 เท่า และอัตรการซูมถึง 9 : 1 ผนวกกับเทคโนโลยี Fusion Optics และฐานจับเพชรและไฟส่องพิเศษ จะช่วยให้ตรวจหาอนุภาคของมลทิน หรือสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กมาก ในเนื้อเพชรได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในเพชรที่มีขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อจอแสดงผลให้เห็นทางหน้าจอแท๊บเลทหรือมอร์นิเตอร์ได้
- สี (Color) เป็นอีกปัจจัยที่กำหนดคุณภาพเพชร โดยเพชรน้ำ 100 หรือ D color คือเพชรที่มีสีขาวใสบริสุทธิ์ จะมีราคามากกว่าเพชรสีอื่นๆ (Fancy Diamond) หรือเพชรที่มีความขุ่นมัว ดังนั้นจากเทคโนโลยี Fusion Optics และฐานจับเพชรที่มีไฟส่องพิเศษจะช่วยให้แยกความแตกต่างของสีเพชรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- การเจียระไน (Cut) คือการดูรูปทรงและสัดส่วนของเพชร หากเป็นเพชรที่ผ่านการเจียระไนโดยช่างฝีมือจะมีสัดส่วนที่เหมาะสม หน้าเพชรไม่กว้างหรือแคบเกินไป มีความตื้นลึกที่สอดรับกับรูปทรงของเพชร ทำให้เพชรสะท้อนแสงไฟได้ดี ส่องประกายแวววาวสวยงาม กล้อง Leica S9 series จะสร้างภาพ 3D เสมือนจริงได้มากขึ้น เนื่องจากเป็นกล้องจุลทรรศน์แบบให้แสงพิเศษ (Greenough) รวมกับเทคโนโลยี Fusion Optics จะช่วยให้ตรวจสอบสัดส่วนของเพชรได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
สรุปคุณลักษณะโดดเด่น
- Leica ซีรีย์ S9 ใช้เลนส์เกรด Apoachormatic ให้แสงและสีที่สดไม่เพี้ยนเหมือนมองด้วยตาเปล่า
- Leica ซีรีย์ S9 มีเทคโนโลยี Fusion Optics สิทธิบัตรจากไลก้าช่วยเพิ่มระยะชัดลึกถึง 12 มิลลิเมตรและเพิ่มรายละเอียดภาพทำให้ค้นหารายละเอียดได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ
- Leica ซีรีย์ S9 มีกำลังขยายสูงถึง 55 เท่า และอัตรการซูมถึง 9 : 1 ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- Leica ซีรีย์ S9 มีระยะการทำงาน 122 มิลลิเมตร ช่วยให้ทำงานกับตัวอย่างง่ายขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้กล้องจุลทรรศน์
- Leica ในรุ่น S9D สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์กล้องดิจิตอลแบบ C-mount ได้ และในรุ่น S9i มีเซนเซอร์กล้องถ่ายภาพติดตั้งภายในตัวกล้องจุลทรรรศน์ทำให้แชร์ภาพทันทีอย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว
- ฐานไฟแบบ Darfield และไฟส่องแบบพิเศษ สั่งทำพิเศษเพื่อใช้กับหัวกล้อง Leica สำหรับตรวจอัญมณี เพชร พลอย โดยเฉพาะ
keyword : กล้องส่องเพชร,กล้องส่องอัญมณี,กล้องดูเพชร,กล้องงานJewelry,กล้องดูพลอย,กล้องGIA